โรคเกาต์
เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สามารถถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมได้ เกิดจากร่างกายมีกรดยูริกมากเกินไป ซึ่งกรดยูริกเป็นสารที่เกิดจากการเผาผลาญของเพียวรีน ซึ่งมีมากในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ถั่วต่างๆ และพืชผักอ่อน รวมทั้งเกิดจากการสลายตัวของเซลล์ในร่างกาย กรดยูริกจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หากร่างกายมีการสร้างกรดยูริกมากเกินไปหรือไตขับยูริกได้น้อยลง เนื่องจากไตเสื่อมลง กรดยูริกก็จะตกผลึกตามข้อ ผนังหลอดเลือด ไตและอวัยวะต่างๆ ทำให้เกิดอาการปวดข้อและโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้
อาการ
ปวดข้ออย่างเฉียบพลันโดยเริ่มจาก ปวดข้อเท้า ปวดข้อนิ้วเท้าก่อน ต่อมาจะปวดบริเวณข้อเข่า ข้อนิ้วมือ ส่วนใหญ่จะปวดตอนกลางคืน ข้อที่ปวดจะบวมแดงร้อนและเจ็บมากจนเดินไม่ไหว อาจมีไข้หนาวสั่น ถ้าปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา อาการของโรคอาจจะหายได้เอง จนดูเหมือนคนปกติ แต่แท้ที่จริงแล้ว จะกลายเป็นโรคเกาต์เรื้อรัง จนเกิดอาการปวดข้อเรื้อรัง ซึ่งอาจใช้เวลาเป็น 10 ปี ซึ่งระยะนี้อาจตรวจพบปุ่มก้อน ขึ้นบริเวณที่เคยอักเสบบ่อย ๆ ปุ่มก้อนนี้จะโตขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งแตกออก มีสารสีขาว ๆ คล้ายชอล์กไหลออกมา และเกิดแผลเรื้อรัง หากผู้ป่วยไม่ไปรับการรักษา อาจทำให้เกิดข้อพิการ เนื่องจากกรดยูริกไปสะสมบริเวณข้อ อาจเกิดนิ่วในไต เนื่องจากกรดยูริกสะสมจนเกิดไตพิการ และยังทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและตีบตันตามมาอีกด้วย
การรักษา
โรคเกาต์ ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมโรคได้อย่างดี โดยการให้ยาลดการอักเสบหรือยาลดระดับกรดยูริกในเลือด แล้วแต่ข้อบ่งชี้ แพทย์จะนัดผู้ป่วยเป็นระยะ ทุก 2-3 เดือน เพื่อตรวจเลือดดูระดับกรดยูริก เมื่อผู้ป่วยกินยาลดระดับกรดยูริกจนเป็นปกติ ก็อาจไม่จำเป็นต้องควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดนัก
เมื่อเป็นโรคเกาต์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไร
1. รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง รับประทานยาตามกำหนด ถ้ามีอาการผิดปกติให้ปรึกษาแพทย์ เช่น ก้อนหรือปุ่มที่ข้อ ปวดเอวหรือปวดท้อง ปัสสาวะเป็นเลือด ควรรีบมาพบแพทย์ก่อนนัด
2. ควรงดอาหารที่มีสารพิวรินสูงประเภทเนื้อสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ น้ำซุปเนื้อสัตว์ กุ้ง หอย ปู ปลาซาร์ดีน กะปิ พืชผักยอดอ่อน เช่น หน่อไม้ ถั่วงอก สะเดา ยอดกระถิน ยอดผักอ่อน แตงกวา
3. ดื่มน้ำมากๆ ช่วยป้องกันการสะสมผลึกกรดยูริกซึ่งอาจทำให้เกิดนิ่วในไต
4. หลีกเลี่ยงอากาศเย็น โรคเกาต์มักมีอาการกำเริบเวลาอากาศเย็นและเวลากลางคืน
5. ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด จะทำให้ไต ขับกรดยูริกได้น้อยลง
6. ยาบางชนิดอาจมีผลอาจทำให้ร่างกายขับกรดยูริกได้น้อยลง ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น