ความรู้เกี่ยวกับไข้หวัดนก
พ.อ.ถนอม สุภาพร
ข้อมูลทั่วไป
การระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกจากเชื้อ H5N1 มีรายงานครั้งแรกในประเทศฮ่องกงในปี พศ.๒๕๔๐ โดยพบการติดเชื้อในมนุษย์จำนวน ๑๘ ราย เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ระบาดในเป็ดไก่ และนก ที่ พบว่าคนที่ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง ๓๓% มีอัตราการเกิดปอดอักเสบสูงถึง ๖๑% และจำเป็นต้องเข้ารักษาตัวมากถึง ๕๑ % ต่อมาในปี พศ.๒๕๔๖ ก็มีรายงานการเจ็บป่วยในจีนซึ่งพบในคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศฮ่องกง จากนั้นก็มีรายงานการป่วยอย่างต่อเนื่องในคนที่ประเทศ กัมพูชา จีน อินโดนิเซีย ลาว มาเลเซีย ไทย และเวียตนาม รวมทั้งในประเทศไทย จนถึงปัจจุบันมีการยืนยันว่ามีผู้ป่วยอย่างน้อย เกือบหนึ่งร้อยราย ในจำนวนนี้ พบว่าประมาณ ๖๘% เสียชีวิตไปแล้ว
การระบาดของไข้หวัดนกจากเชื้อ H5N1 ที่เกิดในปัจจุบันมีลักษณะบางอย่างน่าสนใจ ๒ ประการ ได้แก่ ประการแรก ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุยังไม่มาก ประการที่ ๒ คือผู้ที่ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก ในอดีตที่ผ่านมา ได้เคยมีการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่อันเกิดจากไวรัสอันเกิดจากนกในปี พศ.๒๕๐๐ และในปี พศ.๒๕๑๑ ในการระบาดครั้งนั้นพบว่าไวรัสที่เป็นต้นเหตุมีลักษณะคล้ายคลึงกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ที่รู้จักกันมาก่อนได้แก่เชื้อ H2N2 และ H3N2 ตามลำดับ ย้อนหลังไปในอดีต เคยมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ในปี พศ.๒๔๖๑ อันเป็นเหตุให้มนุษย์ล้มตายภายในปีเดียวมากกว่าจำนวนคนที่ตายจากโรคกาฬโรครวมกัน ดังนั้นเมื่อมีการระบาดของเชื้อหวัดจากไข้หวัดนกในปี พศ.๒๕๔๗ และ ๒๕๔๘ ซึ่งทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นเชื้อ H5N1 จึงมีความหวาดวิตกว่าอาจทำให้เกิดการติดมาถึงมนุษย์แล้วทำให้เกิดการเจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมากเหมือนในอดีต
ในปัจจุบันเชื้อไข้หวัดนกชนิด H5N1 ระบาดหนักในสัตว์ปีกที่เป็นสัตว์เลี้ยงและนกป่า ในเอเชีย ในยุโรป แต่การระบาดในมนุษย์จริงๆ ยังพบไม่มาก แต่นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าเชื้อนี้อาจมีการกลายพันธุ์แล้วมีการผสมข้ามสายพันธ์กับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เกิดในมนุษย์ได้อันจะก่อให้เกิดการระบาดจากมนษย์สู่มนุษย์อย่างรวดเร็วเหมือนในอดีต นอกจากนี้ สุกรและแมวเป็นสัตว์ที่สามารถติดเชื้อไวรัสจากนกหรือจากมนุษย์ และอาจถ่ายทอดเชื้อต่อไปยังสัตว์อื่นๆ รวมทั้งมนุษย์ด้วย ทั้งยังมีความสามารถที่ทำให้เกิดปัญหาเชื้อไวรัสไข้หวัดนกกลายพันธุ์ ทำให้องค์การอนามัยโรคประกาศให้การระบาดของไวรัสไข้หวัดนกจากเชื้อ H5N1 เป็นการระบาดที่ถือว่าเป็นปัญหาวิกฤติทางสาธารณสุขของทั้งโลก และมีแนวโน้มว่าว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นสถานการณ์ที่มีรายงานระบาดใหญ่ทั่วโลกไปแล้ว
การระบาดจากมนุษย์สู่มนุษย์
ปัจจุบันมีรายงานการติดต่อระหว่างมนุษย์ด้วยกันในประเทศเนเธอร์แลนด์ บริธิชโคลัมเบีย และในอิยิปต์ รายงานในประเทศไทยที่ชัดเจนในรอบปีที่ผ่านมาระบุว่าเด็กหญิงอายุ ๑๑ ปีทำให้มารดาซึ่งเฝ้ารักษาพยาบาล ติดเชื้อและทั้งเด็กและมารดาเสียชีวิตด้วยปัญหาปอดอักเสบ ขณะเดียวกัน ป้าของเด็กก็ล้มป่วยในเวลาต่อมาด้วยอาการระบบทางเดินหายใจแต่รอดชีวิตได้เมื่อได้รับการรักษาด้วยยา oseltamivir ทั้งมารดา และป้าได้รับการตรวจยืนยันว่ามีการเจ็บป่วยอันเกิดจากเชื้อ H5N1 นอกจากนี้ยังพบว่าสัตว์แพทย์ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ๓ คนติดเชื้อไวรัสสายพันธ์ H7N7 จากนกแล้วถ่ายทอดจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ ทำให้เพิ่มความหวาดกลัวการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก ไม่ว่าจะเป็นจากสายพันธุ์ H5N1 หรือ H7N7 ก็ตามที
อาการการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคไข้หวัดนก
พบได้ตั้งแต่มีอาการเล็กน้อย อาจหายได้เอง ไปจนถึงมีอาการหนักทางระบบทางเดินหายใจ อาการเหล่านี้ได้แก่ เป็นไข้สูง (พบทุกราย) อาการความผิดปกติของทางเดินหายใจส่วนต้นได้แก่มี น้ำมูกไหล ไอ จาม พบได้ประมาณ ๖๐-๗๐% อาการรุนแรงจากปอดอักเสบ ได้แก่ ไข้สูง ไอ หอบ พบได้ ๕๘% อาการทางเดินอาหาร ได้แก่ ท้องเดิน ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน พบในผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่ง และประมาณหนึ่งในห้ามีโลหิตจางและไขกระดูกลดการสร้างเม็ดเลือดทุกประเภท มีรายงานว่าบางรายมีอาการการรู้สึกตัวลดลง ปวดศรีษะ และอาจชักจากปัญหาสมองอักเสบ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดนกมักเป็นผู้สูงอายุ ผู้ที่รับการรักษาช้าเกินไป ผู้ที่มีปอดอักเสบ และผู้ที่มีจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติมาก
แนวทางการวินิจฉัยของแพทย์
การเจ็บป่วยจากโรคไข้หวัดนกมีอาการคล้ายคลึงกับโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคจากไวรัสที่ก่อโรคทางเดินหายใจอื่นอีกเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าผู้ป่วยหรือญาติให้ข้อมูลว่าการเจ็บป่วยมีความสัมพันธ์กับการสัมผัสสัตว์ที่สงสัยว่าเป็นโรคและเสียชีวิต แพทย์จะส่งเลือด น้ำมูล เสมหะ ไปตรวจหาเชื้อ H5N1
ความหวังเรื่องวัคซีน
การพัฒนาวัคซีนที่จะใช้ในมนุษย์เป็นจำนวนมากมีวิธีการคือฉีดเชื้อเป็นจำนวนมากลงไปในสัตว์ปีก เช่น ไก่ แต่เชื้อไวรัสในปริมาณนี้มักทำให้สัตว์เหล่านี้เสียชีวิต ทำให้ผลิตวัคซีนเป็นจำนวนมากไม่ได้ นอกจากนี้โรงงานผลิตต้องมีกระบวนการระมัดระวังการติดต่อเป็นอย่างดีซึ่งยังมีโรงงานผลิตที่มีจำนวนยังไม่มาก โรงงานเหล่านี้ยังมีภาระที่ต้องผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบัน
ในปี พศ.๒๕๔๐ ซึ่งมีการระบาดเกิดขึ้น มีการทดลองวัคซีนที่ทำจากเป็ด แต่พบว่าไม่สามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันได้ในมนุษย์ ในปัจจุบันมีการทดลองใช้ไวรัสสายพันธุ์ H5N3 มาพัฒนาเป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานที่มีผลต่อเชื้อ H5N1 ในมนุษย์ได้ แต่การนำมาใช้อย่างกว้างขวางยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองพัฒนา
การระวังป้องกัน
มีความจำเป็นต้องให้ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสัตว์ และผู้ที่ปฏิบัติการควบคุมการระบาดในสัตว์และผู้ที่เข้าทำลายสัตว์ที่สงสังว่ามีการติดเชื้อ อีกทั้งผู้ที่ต้องดูแลผู้ที่ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยจากการติดเชื้อไข้หวัดนก การป้องกันเบื้องต้นทำโดยสวมใส่ถุงมือ สวมใส่เสื้อกาวน์ หน้ากากป้องกันการติดเชื้อโดยการหายใจชนิด N95 โดยอุปกรณ์ทุกอย่างใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเลย ในโรงพยาบาลเมื่อมีผู้ป่วยต้องทำการแยกผู้ป่วยออกจากผู้ป่วยอื่นๆโดยเคร่งครัด
การให้การรักษา
เนื่องจากข้อมูลการใช้ยาในโรคไข้หวัดนกยังมีไม่มาก และมีการทดลองใช้ยาหลายอย่างมาก่อนเช่น amantadine, rimantadine, ribavirin แต่ผลที่ได้ก็ไม่เป็นที่น่าพอใจ ยิ่งไปกว่านั้น พบว่าในการระบาดในปี พศ.๒๕๔๖ เชื้อไข้หวัดนก H5N1 ดื้อต่อยา amantadine
ในปัจจุบันยาที่อาจใช้ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสที่อาจได้ผล ได้แก่ ยา oseltamivir (Tamiflu) และยา zanamivir (Relenza) อย่างไรก็ตาม หากใช้เมื่อช้าเกินไป ก็พบว่ายาดังกล่าวใช้ไม่ได้ผล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น